ทับทิม: ผลไม้มากประโยชน์
ทับทิม (Pomagranate)
ปกติทับทิม 1 ลูก มีประมาณ 600 เมล็ด เมล็ดท้บทิมเหล่านี้ แม้ว่าจะกินแล้วมีความรู้สึกแข็ง ๆ ไม่ค่อยมีความอร่อยเท่าไหร่ แต่มากไปด้วยประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย เพราะ มีแครอลี่ต่ำ มีวิตามินสูง มี สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) สูง ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงหัวใจ และช่วยป้องกัน
มะเร็งร้าย
ทับทิมให้วิตามินซี และวิตามินเค
เมล็ดท้บทิม 100 กรัม มีวิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม (mg) หรือประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน (DV -- Daily Value) และมีวิตามินเค จำนวน 16 ไมโครกรัม (mcg) หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
วิตามินซี ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต้านทานโรคร้ายต่าง ๆ ช่วยรักษาแผล ทำให้เหงือกแข็งแรง และช่วยให้ร่างกายผลิดคอลลาเจน(Collagen) และ อิลาสติน(Elastin) และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก (Iron) ได้ดีขึ้น
คอลลเจน(Collagen) มีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมและยึดจับเซลล์เนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน เช่น เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อและเส้นเลือด และคงความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว
อิลาสติน(Elastin) มีความคล้ายคลึงกับคอลลาเจนมาก แต่สามารถยืดได้มากกว่า จึงเป็นตัวทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น อิลาสตินยังเป็นโครงสร้างสำคัญที่ยึดให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเหมาะสม อิลาสตินมีกรดอะมิโนที่สำคัญเป็นส่วนประกอบ 2 ตัว คือ เดสโมซีน (Desmosine) และไอโซเดสโมซีน (Isodesmosine) ซึ่งมีหน้าที่หลักคือทำให้ผิวยืดออกและหดกลับที่เดิม เมื่ออายุมากขึ้นอิลาสตินก็จะเสื่อมสภาพเราจึงเกิดริ้วรอยตามมา
วิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงสมบูรณ์ และช่วยทำให้เลือกเกาะแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผล ช่วยบำรุงหัวใจ และทำงานร่วมกับวิตามินดี ในการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวม
ทับทิมช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) ในทับทิม เรียกว่า โพลิฟีนอล(Polyphenols) เช่น tannins quercetin และ anthocyanins ซึ่งเป็นเคมีที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงหัวใจและต่อต้านมะเร็ง โพลิฟีนอล เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง และช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ป้องกันการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย (tumor growth)
ทับทิมช่วยป้องกันตะคริว
ทับทิม มีกรดแพนโตธีนิค หรือ วิตามินบี 5 (Pantothenic acid or B5) ที่ช่วยป้องกันภาวะการต้านอินซูลิน (Insulin resistance) ถ้าร่างกายขาดวิตามิน B5 จะทำให้เกิดตะคริว (Muscle cramp) ได้
ทับทิมช่วยสร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด
ในเมล็ดทับทิมมีน้ำตาลสูง เมล็ดทับทิม 1/2 ถ้วย มีน้ำตาล 12 กรัม และมีเส้นใย (Fiber) จำนวน 3.5 กรัม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับแอบเปิ้ล พบว่า ทับทิมมีเส้นใยมากกว่า แอบเปิ้ล ถึง 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน เส้นใยในทับทิม จะช่วยสร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน
เว็บไซต์ frynn.com พูดถึงประโยชน์ของทับทิมไว้ 41 ประการ คือ
อ้างอิง
http://www.livestrong.com/article/292052-the-health-benefits-of-pomegranate-seeds/
http://wrinkleremoval.wordpress.com/2012/12/10/collagen-elastin
http://articles.mercola.com/sites/articles/archive/2004/03/24/vitamin-k-part-two.aspx
http://www.washingtonian.com/blogs/wellbeing/nutrition/why-pomegranate-seeds-are-so-good-for-you.php
http://www.emedicinehealth.com/muscle_cramps/page2_em.htm
http://frynn.com/ทับทิม/
ปกติทับทิม 1 ลูก มีประมาณ 600 เมล็ด เมล็ดท้บทิมเหล่านี้ แม้ว่าจะกินแล้วมีความรู้สึกแข็ง ๆ ไม่ค่อยมีความอร่อยเท่าไหร่ แต่มากไปด้วยประโยชน์มหาศาลต่อร่างกาย เพราะ มีแครอลี่ต่ำ มีวิตามินสูง มี สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) สูง ซึ่งเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบำรุงหัวใจ และช่วยป้องกัน
มะเร็งร้าย
ทับทิมให้วิตามินซี และวิตามินเค
เมล็ดท้บทิม 100 กรัม มีวิตามินซี 10.2 มิลลิกรัม (mg) หรือประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน (DV -- Daily Value) และมีวิตามินเค จำนวน 16 ไมโครกรัม (mcg) หรือประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนวิตามินซีที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
วิตามินซี ช่วยให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการต้านทานโรคร้ายต่าง ๆ ช่วยรักษาแผล ทำให้เหงือกแข็งแรง และช่วยให้ร่างกายผลิดคอลลาเจน(Collagen) และ อิลาสติน(Elastin) และช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็ก (Iron) ได้ดีขึ้น
คอลลเจน(Collagen) มีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมและยึดจับเซลล์เนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน เช่น เส้นเอ็น ข้อต่อกระดูกต่างๆ รวมถึงช่วยเสริมการสร้างเนื้อเยื่อและเส้นเลือด และคงความชุ่มชื่นให้เซลล์ผิว
อิลาสติน(Elastin) มีความคล้ายคลึงกับคอลลาเจนมาก แต่สามารถยืดได้มากกว่า จึงเป็นตัวทำให้ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น อิลาสตินยังเป็นโครงสร้างสำคัญที่ยึดให้เซลล์ผิวเรียงตัวอย่างเหมาะสม อิลาสตินมีกรดอะมิโนที่สำคัญเป็นส่วนประกอบ 2 ตัว คือ เดสโมซีน (Desmosine) และไอโซเดสโมซีน (Isodesmosine) ซึ่งมีหน้าที่หลักคือทำให้ผิวยืดออกและหดกลับที่เดิม เมื่ออายุมากขึ้นอิลาสตินก็จะเสื่อมสภาพเราจึงเกิดริ้วรอยตามมา
วิตามินเค ช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงสมบูรณ์ และช่วยทำให้เลือกเกาะแข็งตัวเมื่อเกิดบาดแผล ช่วยบำรุงหัวใจ และทำงานร่วมกับวิตามินดี ในการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวม
ทับทิมช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
สารพฤกษเคมี (Phytochemicals) ในทับทิม เรียกว่า โพลิฟีนอล(Polyphenols) เช่น tannins quercetin และ anthocyanins ซึ่งเป็นเคมีที่มีประโยชน์ ช่วยบำรุงหัวใจและต่อต้านมะเร็ง โพลิฟีนอล เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง และช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง ป้องกันการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย (tumor growth)
ทับทิมช่วยป้องกันตะคริว
ทับทิม มีกรดแพนโตธีนิค หรือ วิตามินบี 5 (Pantothenic acid or B5) ที่ช่วยป้องกันภาวะการต้านอินซูลิน (Insulin resistance) ถ้าร่างกายขาดวิตามิน B5 จะทำให้เกิดตะคริว (Muscle cramp) ได้
ทับทิมช่วยสร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด
ในเมล็ดทับทิมมีน้ำตาลสูง เมล็ดทับทิม 1/2 ถ้วย มีน้ำตาล 12 กรัม และมีเส้นใย (Fiber) จำนวน 3.5 กรัม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับแอบเปิ้ล พบว่า ทับทิมมีเส้นใยมากกว่า แอบเปิ้ล ถึง 2 เท่า ในปริมาณที่เท่ากัน เส้นใยในทับทิม จะช่วยสร้างความสมดุลของน้ำตาลในกระแสเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคเบาหวาน
เว็บไซต์ frynn.com พูดถึงประโยชน์ของทับทิมไว้ 41 ประการ คือ
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
- ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกายและช่วยในการชะลอวัย
- น้ำทับทิมมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง ด้วยการนำน้ำทับทิมประมาณ 1 ช้อนชามาทาทิ้งไว้บนใบหน้าประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก
- น้ำทับทิมช่วยเพิ่มความสดชื่น แก้กระหาย คลายร้อนได้เป็นอย่างดี
- ช่วยระงับกลิ่นปากได้อีกด้วย
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง บรรเทาอาการหวัด
- ช่วยปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด
- ทับทับมีวิตามินซีสูงมาก และยังมีวิตามินเอ วิตามินอี และกรดโฟลิกอีกด้วย
- ใบทับทิมใช้ในการประกอบพิธีต่างๆที่ใช้น้ำมนต์ในการประกอบพิธี
- นำมาใช้ทำเป็นขนมหวาน อย่างทับทิมกรอบ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน เพราะให้ความสดชื่นคลายร้อนได้เป็นอย่างดี
- ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในหญิงตั้งครรภ์
- ช่วยในการปรับฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน
- ช่วยป้องกันโรคความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ช่วยในการบำบัดอาการของโรคเบาหวาน
- ช่วยบำรุงสายตา แก้อาการตาอักเสบ
- น้ำต้มเปลือกทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้
- ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ด้วยการช่วยเสริมสุขภาพหัวใจให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- ช่วยบำรุงสุขภาพฟันให้แข็งแรง
- ช่วยส่งเสริมสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของหลอดเลือด
- ช่วยในการฟอกไตและท่อปัสสาวะ
- ช่วยลดสภาวะการแข็งตัวของเลือดจากไขมันในเลือดสูง
- มีฤทธิ์ในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียต่างๆได้เป็นอย่างดี
- ช่วยแก้อาการระดูขาว ตกเลือด
- ช่วยบำรุงสุขภาพตับให้แข็งแรง
- มีส่วนช่วยบำรุงและต่อต้านอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ด้วย
- เปลือกทับทิมสามารถรักษาโรคท้องเดินและโรคบิดได้ เพราะมีสารในกลุ่มแทนนินอยู่ในปริมาณมาก
- เปลือกทับทิมมีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบ
- เปลือกผลช่วยรักษาแผลหิด กลากเกลื้อน
- เปลือกของทับทิมช่วยต้านการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
- ยาต้มจากเปลือกผลช่วยรักษาอาการอุจจาระร่วงได้ โดยช่วยลดจำนวนครั้งในการขับถ่าย และทำให้ระยะเวลาเริ่มถ่ายครั้งแรกนานขึ้น
- เปลือกต้นและเปลือกรากของทับทิม สามารถใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืดและพยาธิตัวกลมได้เป็นอย่างดี ด้วยการนำเปลือกของรากและต้นที่ยังสดๆประมาณครึ่งกำมือ เติมกานพลูวงไปเล็ก น้อยเพื่อแต่งรส นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วยแก้ว เคี่ยวจกเหลือถ้วยครึ่ง แล้วนำมารับประทานครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงรับประทานยาถ่าย เช่น ดีเกลืออีก 2 ช้อนโต๊ะตามไป อีกครั้งหนึ่ง
- ดอกทับทิมใช้ห้ามเลือดได้ ด้วยการนำดอกแห้งมาบดให้ละเอียดแล้วนำมาทาหรือโรยใส่บริเวณบาดแผล
- ดอกทับทิม ช่วยแก้อาการหูชั้นในอักเสบ
- ใบของทับทิมสามารถนำมาอมกลั้วคอ หรือทำเป็นยาล้างตาก็ได้
- ช่วยลดปัญหาผมร่วง ด้วยการนำยาพอกที่ได้จากใบ แล้วนำมาพอกหนังศีรษะ
- ชาวอินเดียนำน้ำคั้นจากผลทับทิมและดอกของทับทิมมาปรุงเป็นยาธาตุ สมานลำไส้ บำรุงหัวใจ
- ทับทิมช่วยต่อต้านการเกิดโรคมะเร็งได้มากกว่า 13 ชนิด โดยช่วยให้เซลล์มะเร็งไม่เพิ่มจำนวนขึ้น เช่น มะเร็งผิวหนัง มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ เป็นต้น
- ช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
อ้างอิง
http://www.livestrong.com/article/292052-the-health-benefits-of-pomegranate-seeds/
http://wrinkleremoval.wordpress.com/2012/12/10/collagen-elastin
http://articles.mercola.com/sites/articles/archive/2004/03/24/vitamin-k-part-two.aspx
http://www.washingtonian.com/blogs/wellbeing/nutrition/why-pomegranate-seeds-are-so-good-for-you.php
http://www.emedicinehealth.com/muscle_cramps/page2_em.htm
http://frynn.com/ทับทิม/
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ