การออกกำลังกาย กับ อนุมูลอิสระ (Free radicals)
การออกกำลังกาย มีประโยชน์ ทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่มีผลเสียคือ เป็นการสร้างอนุมูลอิสระ เป็นต้นเหตุนำมาซึ่ง ความแก่ โรคมะเร็ง และอีกหลาย ๆ โรค
อนุมูลอิสระ (Free radical)มีหลายชนิด และมีชนิดหนึ่งที่มากจากออกซิเจนที่เราหายใจเข้าใป ลองคิดดูซิว่า อากาศที่เราหายใจเข้าไปทุกวัน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ
น่าตกใจ แต่ต้องบอกว่า เป็นความจริง!
อนุมูลอิสระ (Free radicals) เป็นโมเลกุลที่ขาดอิเล็กตรอน โมเลกุลนี้จะหาความสมดุลโดยการไปแย่งอิเล็กตรอนจากโมเลกุลที่ดี โมเลกุลที่ดีเมื่อถูกแย่งอิเล็กตรอนไปแล้ว ก็กลายเป็นอนุมูลอิสระ เป็นปฏิกริยาลูกโซ่เช่นนี้เรื่อยไป
ไม่ต้องตกใจจนเกินเหตุ เพราะในภาวะปกติ ร่างกายสามรถกำจัดอนุมูลอิสระอยู่แล้ว โดยการผลิตสาร 3 ชนิด คือ glutathione catalase และ superoxide dismutase ซึ่งเรียกว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants)ซึ่งจะทำงานโดยตามหาอนุมูลอิสระ และแจก อิเล็กตรอนให้อนุมูลอิสระ ทำให้ไม่ต้องไปแย่งมาจากโมเลกุลที่สมบูรณ์
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังาย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อาจจะไม่พอเพียง ในการต้านอนุมูลอิสระ
ปัญหามันอยู่ที่ว่า เกิดมีจำนวนอนุมูลอิสระ มากเกินกว่าที่ร่างกายจะผลิดสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้เพียงพอ ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ต้องใช้ออกซิเจน มากกว่าคนธรรมดา 10-20 เท่า ในขณะออกกำลังกาย ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลเป็นพลังงาน ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า กระบวนการเผาผลาญ (oxidation) ในกระบวนการนี้ ออกซิเจนส่วนใหญ่จะรวมกับไฮโดรเจน กลายเป็นน้ำ และ มีออกซิเจนจำนวนหนึ่ง ประมาณ 5% จะกลายเป็นอนุมูลอิสระ หรือ Free radicals
ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งดี แต่ถ้านาน ๆ ออกที และออกกำลังแบบหักโหม ไม่น่าจะเป็นผลดีนัก
ถ้ามีอนุมูลอิสระมากเกินกว่าที่ร่างกายจะสร้างตัวต้านทานไหว การกินผักและผลไม้ ช่วยได้
นอกจากนี้ วิตามินอี วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
วิตามินอี มีในผัก น้ำมันปลา (fish oils) ธัญญพืช ผู้ชายควรรับประทานวันละ 15 IU ผู้หญิง วันละ 12 IU
วิตามินซี มีใน พริกสด กะหล่ำปลี บล็อกเคอรี่ และอื่น ๆ แนะนำว่า ควรรับประทาน ประมาณวันละ 60 mg ถ้าเกินวันละ 2000 mg บางคนจะเกิดผลข้างเคียงในทางลบ
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene)จะแปลงเป็น วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน มีใน ตับ ไข่แดง นม เนย แครอท บลอกเคอรี่ แยม มะเขือเทศ ธัญญพืช เป็นต้น (หมายเหตุ วิตามินเอ ไม่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และสามารถกลายเป็นพิษได้ถ้ารับประทานมากเกินไป)
การกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง น่าจะพอเพียงสำหรับการต้านอนุมูลอิสระ มีคำพูดที่ว่า ดูแลร่างการให้ดีในช่วง 50 ปีแรก และร่างกายจะปกป้องคุณอีก 50 ปีถัดไป
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ช่วยแก้ปัญหา โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคความดันโลหิตสูง อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ มีสติปัญญาในการคิด สร้างสรรค์และการแก้ปัญหา อีกด้วย
อ้างอิง
Glazier, Mark. "Is Exercise Causing Damage to Your Body?", <http://www.nutrabio.com/News/news_free_radicals.htm>.
"Antioxidants and Free radicals", <http://www.rice.edu/~jenky/sports/antiox.html>.
Perez, Dan W. "How Extreme Endurance Exercise Can Harm Your Health", <http://ezinearticles.com/?How-Extreme-Endurance-Exercise-Can-Harm-Your-Health&id=850653>.
"Benefits of Antioxidants: Running Increases Free Radicals, Antioxidants Fight Them". <http://www.invigorate360.com/reviews/benefits-of-antioxidants-running-increases-free-radicals-antioxidants-fight-them/>.
อนุมูลอิสระ (Free radical)มีหลายชนิด และมีชนิดหนึ่งที่มากจากออกซิเจนที่เราหายใจเข้าใป ลองคิดดูซิว่า อากาศที่เราหายใจเข้าไปทุกวัน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ
น่าตกใจ แต่ต้องบอกว่า เป็นความจริง!
อนุมูลอิสระ (Free radicals) เป็นโมเลกุลที่ขาดอิเล็กตรอน โมเลกุลนี้จะหาความสมดุลโดยการไปแย่งอิเล็กตรอนจากโมเลกุลที่ดี โมเลกุลที่ดีเมื่อถูกแย่งอิเล็กตรอนไปแล้ว ก็กลายเป็นอนุมูลอิสระ เป็นปฏิกริยาลูกโซ่เช่นนี้เรื่อยไป
ไม่ต้องตกใจจนเกินเหตุ เพราะในภาวะปกติ ร่างกายสามรถกำจัดอนุมูลอิสระอยู่แล้ว โดยการผลิตสาร 3 ชนิด คือ glutathione catalase และ superoxide dismutase ซึ่งเรียกว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants)ซึ่งจะทำงานโดยตามหาอนุมูลอิสระ และแจก อิเล็กตรอนให้อนุมูลอิสระ ทำให้ไม่ต้องไปแย่งมาจากโมเลกุลที่สมบูรณ์
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเสริมการต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม การออกกำลังาย สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อาจจะไม่พอเพียง ในการต้านอนุมูลอิสระ
ปัญหามันอยู่ที่ว่า เกิดมีจำนวนอนุมูลอิสระ มากเกินกว่าที่ร่างกายจะผลิดสารต่อต้านอนุมูลอิสระได้เพียงพอ ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำให้ต้องใช้ออกซิเจน มากกว่าคนธรรมดา 10-20 เท่า ในขณะออกกำลังกาย ร่างกายจะเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลเป็นพลังงาน ซึ่งเรียกกระบวนการนี้ว่า กระบวนการเผาผลาญ (oxidation) ในกระบวนการนี้ ออกซิเจนส่วนใหญ่จะรวมกับไฮโดรเจน กลายเป็นน้ำ และ มีออกซิเจนจำนวนหนึ่ง ประมาณ 5% จะกลายเป็นอนุมูลอิสระ หรือ Free radicals
ดังนั้นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งดี แต่ถ้านาน ๆ ออกที และออกกำลังแบบหักโหม ไม่น่าจะเป็นผลดีนัก
ถ้ามีอนุมูลอิสระมากเกินกว่าที่ร่างกายจะสร้างตัวต้านทานไหว การกินผักและผลไม้ ช่วยได้
นอกจากนี้ วิตามินอี วิตามินซี และเบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย
วิตามินอี มีในผัก น้ำมันปลา (fish oils) ธัญญพืช ผู้ชายควรรับประทานวันละ 15 IU ผู้หญิง วันละ 12 IU
วิตามินซี มีใน พริกสด กะหล่ำปลี บล็อกเคอรี่ และอื่น ๆ แนะนำว่า ควรรับประทาน ประมาณวันละ 60 mg ถ้าเกินวันละ 2000 mg บางคนจะเกิดผลข้างเคียงในทางลบ
เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene)จะแปลงเป็น วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน มีใน ตับ ไข่แดง นม เนย แครอท บลอกเคอรี่ แยม มะเขือเทศ ธัญญพืช เป็นต้น (หมายเหตุ วิตามินเอ ไม่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และสามารถกลายเป็นพิษได้ถ้ารับประทานมากเกินไป)
การกินอาหารที่ดี มีประโยชน์ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง น่าจะพอเพียงสำหรับการต้านอนุมูลอิสระ มีคำพูดที่ว่า ดูแลร่างการให้ดีในช่วง 50 ปีแรก และร่างกายจะปกป้องคุณอีก 50 ปีถัดไป
การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ช่วยแก้ปัญหา โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคความดันโลหิตสูง อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพสมบูรณ์ มีสติปัญญาในการคิด สร้างสรรค์และการแก้ปัญหา อีกด้วย
อ้างอิง
Glazier, Mark. "Is Exercise Causing Damage to Your Body?", <http://www.nutrabio.com/News/news_free_radicals.htm>.
"Antioxidants and Free radicals", <http://www.rice.edu/~jenky/sports/antiox.html>.
Perez, Dan W. "How Extreme Endurance Exercise Can Harm Your Health", <http://ezinearticles.com/?How-Extreme-Endurance-Exercise-Can-Harm-Your-Health&id=850653>.
"Benefits of Antioxidants: Running Increases Free Radicals, Antioxidants Fight Them". <http://www.invigorate360.com/reviews/benefits-of-antioxidants-running-increases-free-radicals-antioxidants-fight-them/>.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น