ทุเรียน ไม่มีคอเรสเตอรอล
ทุเรียน ไม่มีคอเรสเตอรอล เป็นเรื่องแปลกเพราะ พอพูดถึงทุเรียน บางคนบอกว่า มีคอเรสเตอรอลมากกว่ากินขาหมูเสียอีก
เว็บไซต์ www.nutrition-and-you.com รายงานว่า ทุเรียนไม่มีคอเรสเตอรอล แต่ยอมรับว่า มีไขมันสูงกว่าผลไม้อื่นๆ
ข้อมูลนี้ ดูเหมือนจะสอดคล้อง กับการวิจัยของ รศ.ดร.ระติพร หาเรือนกิจ, รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับ Professor Dr.Shela Gorinstein จาก
มหาวิทยาลัยฮิบบรูและคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยการเกษตรวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ที่ระบุว่า หนูทดลองที่ได้รับทุเรียนหมอนทองในอาหาร สามารถลดสารคอเลสเตอรอล ทั้งหมดได้ 16% และลด LDL คอเรสเตอรอลได้ถึง 31.3% LDL เป็นคอเรสเตอรอลตัวร้าย ที่ไปสะสมในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดตันได้
นอกจากนี้ ทุเรียนยังมี แร่ธาตุ สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ที่มีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น วิตามินซี บี9(โฟเลต) บี 6 กำมะถัน โปรตีน(กรดอะมิโน) โปแตสเซี่ยม แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก เส้นใยอาหาร(ไฟเบอร์)ทองแดง คาร์โบไฮเดรท และน้ำตาล (simple sugar) ที่ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที เช่น fructose และ sucrose เป็นต้น
โดยสรุป กินทุเรียนได้พลังงาน ทันที สร้างความกระปรี้กระเปล่าให้กับร่างกาย ไวตามินซี ช่วยต้านทานโรค และต้านอนุมูลอิสระ ทุเรียนให้วิตามินที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการรับประทาน เช่น กลุ่มวิตามินบี B-complex ซึ่งหายากในผลไม้ทั่วไป ทองแดงและเหล็ก มีส่วนในการสร้างเม็ดเลือดแดงที่จำเป็นสำหรับร่างกาย โปแตสเซี่ยม ช่วยการทำงานของหัวใจและความดัน และช่วยให้นอนหลับได้อีกด้วย โดยเฉพาะ มีสาร tryptophan ซึ่งรู้จักกันในนามว่าเป็น ยานอนหลับธรรมชาติ(nature's sleeping pill)
หลายคนบอกว่า อย่ากินทุเรียนผสมกับเหล้า ตายกันมาเยอะแล้ว คิดว่าคงไม่ต้องลองนะครับ
บางคนบอกว่า กินทุเรียนกลิ่นรุนแรง แต่ถ้าจะให้กลิ่นหาย เขาบอกว่า พอกินทุเรียนเสร็จแล้ว ให้เอาน้ำใส่เปลือกทุเรียนและดื่มตามไป รับรองกลิ่นหายสนิท
คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถวบ้านเรา (ลาว เขมร พม่า) เชื่อว่าทุเรียนมีคุณสมบัติให้ความร้อนซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ วิธีโบราณที่จะลดผลกระทบจากความร้อนนี้คือ รินน้ำลงในเปลือกทุเรียนหลังจากเนื้อถูกรับประทานแล้วและดื่มน้ำนั้น อีกวิธีคือรับประทานทุเรียนไปพร้อมกับมังคุด ซึ่งถูกคิดว่ามีคุณสมบัติให้ความเย็น มีความเชื่อโบราณที่ห้ามผู้หญิงมีครรภ์หรือคนที่มีความดันเลือดสูงรับประทานทุเรียน
รู้อย่างนี้แล้ว กินทุเรียนกันดีกว่านะครับ
อ้างอิง
http://www.nutrition-and-you.com/durian-fruit.html
http://www.scbchallenge.com/webboard/topic/221
http://www.foodscout.org/food/durian.html
http://www.vcharkarn.com/varticle/38967
เว็บไซต์ www.nutrition-and-you.com รายงานว่า ทุเรียนไม่มีคอเรสเตอรอล แต่ยอมรับว่า มีไขมันสูงกว่าผลไม้อื่นๆ
ข้อมูลนี้ ดูเหมือนจะสอดคล้อง กับการวิจัยของ รศ.ดร.ระติพร หาเรือนกิจ, รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับ Professor Dr.Shela Gorinstein จาก
มหาวิทยาลัยฮิบบรูและคณะผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัยการเกษตรวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ ที่ระบุว่า หนูทดลองที่ได้รับทุเรียนหมอนทองในอาหาร สามารถลดสารคอเลสเตอรอล ทั้งหมดได้ 16% และลด LDL คอเรสเตอรอลได้ถึง 31.3% LDL เป็นคอเรสเตอรอลตัวร้าย ที่ไปสะสมในเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดอุดตันได้
นอกจากนี้ ทุเรียนยังมี แร่ธาตุ สารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ ที่มีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น วิตามินซี บี9(โฟเลต) บี 6 กำมะถัน โปรตีน(กรดอะมิโน) โปแตสเซี่ยม แมงกานีส แมกนีเซียม เหล็ก เส้นใยอาหาร(ไฟเบอร์)ทองแดง คาร์โบไฮเดรท และน้ำตาล (simple sugar) ที่ร่างกายนำไปใช้ได้ทันที เช่น fructose และ sucrose เป็นต้น
โดยสรุป กินทุเรียนได้พลังงาน ทันที สร้างความกระปรี้กระเปล่าให้กับร่างกาย ไวตามินซี ช่วยต้านทานโรค และต้านอนุมูลอิสระ ทุเรียนให้วิตามินที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ ต้องได้รับจากการรับประทาน เช่น กลุ่มวิตามินบี B-complex ซึ่งหายากในผลไม้ทั่วไป ทองแดงและเหล็ก มีส่วนในการสร้างเม็ดเลือดแดงที่จำเป็นสำหรับร่างกาย โปแตสเซี่ยม ช่วยการทำงานของหัวใจและความดัน และช่วยให้นอนหลับได้อีกด้วย โดยเฉพาะ มีสาร tryptophan ซึ่งรู้จักกันในนามว่าเป็น ยานอนหลับธรรมชาติ(nature's sleeping pill)
หลายคนบอกว่า อย่ากินทุเรียนผสมกับเหล้า ตายกันมาเยอะแล้ว คิดว่าคงไม่ต้องลองนะครับ
บางคนบอกว่า กินทุเรียนกลิ่นรุนแรง แต่ถ้าจะให้กลิ่นหาย เขาบอกว่า พอกินทุเรียนเสร็จแล้ว ให้เอาน้ำใส่เปลือกทุเรียนและดื่มตามไป รับรองกลิ่นหายสนิท
คนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แถวบ้านเรา (ลาว เขมร พม่า) เชื่อว่าทุเรียนมีคุณสมบัติให้ความร้อนซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเหงื่อออกมากกว่าปกติ วิธีโบราณที่จะลดผลกระทบจากความร้อนนี้คือ รินน้ำลงในเปลือกทุเรียนหลังจากเนื้อถูกรับประทานแล้วและดื่มน้ำนั้น อีกวิธีคือรับประทานทุเรียนไปพร้อมกับมังคุด ซึ่งถูกคิดว่ามีคุณสมบัติให้ความเย็น มีความเชื่อโบราณที่ห้ามผู้หญิงมีครรภ์หรือคนที่มีความดันเลือดสูงรับประทานทุเรียน
รู้อย่างนี้แล้ว กินทุเรียนกันดีกว่านะครับ
อ้างอิง
http://www.nutrition-and-you.com/durian-fruit.html
http://www.scbchallenge.com/webboard/topic/221
http://www.foodscout.org/food/durian.html
http://www.vcharkarn.com/varticle/38967
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น