วิตามินอี

วิตามินอี มีประโยชน์ ดังนี้
  • ป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต หรือรังสี UV (ultraviolet)
  • ป้องก้นความเสียหายของเซลล์อันเนื่องมาจาก อนุมูลอิสระ (Free radicals)
  • ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก และ โรค Alzheimer
  • วิตามินอี ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ (coronary heart disease) ป้องกันเลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดหัวใจวาย
  • วิตามินอี ช่วยชะลอความจำเสื่อมในผู้สูงอายุ



  • ทำให้เซลล์สื่อสารกัน (Cell communication)ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เซลล์ในร่างกายสื่อสารกันได้ดี จะนำไปสู่ "การรักษาดุลยภาพ" (Homeostasis) เป็นดุลยภาพอันนำมาซึ่งการมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจอย่างยั่งยืน



อาการที่สังเกตเห็นได้ เมื่อขาดวิตามินอี
  • มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการย่อย โดยเฉพาะด้านการดูดซีมอาหาร
  • รู้สึกเสียวซ่า หรือหมดความรู้สึก บริเวณ แขน มือ ขา หรือเท้า
  • มีปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือถุงน้ำดี
วิตามินอีมีในอาหารหลายชนิด เช่น จำพวกเนื้อสัตว์ ไก่ ปลา หมู เนื้อวัว ตับ ไข่ นมเนย หรืออาหารจำพวกผัก เช่น ฟักทอง ผักกาดหอม ถั่ว มะเขือเทศ หัวผักกาด หัวแครอท คึ่นไช่ มันเทศ ผลไม้จำพวกส้มเขียวหวาน ส้มโอ นอกจากนี้ยังพบในเมล็ดพืช เช่น เมล็ดข้าว เมล็ดถั่ว เมล็ดข้าวโพด แต่ที่พบจำนวนมากคือ นํ้ามันพืช นํ้ามันถั่ว นํ้ามันงา นํ้ามันข้าวโพด

โดยทั่วไป คนปกติต้องการวิตามินอีเพียงวันละ 8-12 มิลลิกรัมเท่านั้น ดังนั้นถ้ารับประทานอาหารที่ถูกตามหลักโภชนาการแล้วก็ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินอีเพิ่มเติม หรืออาจสรุปว่า ในคนปกติการรับประทานหรือใช้วิตามินอีเพิ่มเติมไม่มีประโยชน์อะไรเพิ่มขึ้น ทำให้เปลืองเงินและอาจเกิดอันตรายได้

การรับประทานวิตามินอีขนาดสูงๆ เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวันนั้น อาจจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้หลายชนิด ตั้งแต่อาการเล็กๆ น้อยๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อ่อนเพลีย มึนงง ตาลาย ปากเปื่อย ริมฝีปากแตก จนกระทั่งถึงอาการอันตราย เช่น ความดันโลหิตสูงขึ้น อ่อนเพลียมากมาย มีก้อนเนื้องอกที่เต้านม ปริมาณของไขมันในเลือดสูง และความต้นทานต่อการติดเชื้อแบคทีเรียลดน้อยลง ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น

วิตามินอี มีประโยชน์ แต่ถ้ามากเกินไป ก็กลายเป็นโทษได้เหมือนกัน เราไม่จำเป็นต้องซื้อวิตามินอี วิตามินอีมีอยู่แล้วในอาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน เคล็ดลับคือ กินอาหารให้หลากหลาย และครบ 5 หมู่ สิ่งสำคัญคือ ผักและผลไม้ ควรกินเป้นประจำ เพื่อความแข็งแรงสมบูรณ์ของร่างกาย เหมือนที่ฝรั่งเขาพูดว่า An apple a day keeps the doctor away.


อ้างอิง
http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=nutrient&dbid=111
http://www.panclinic.com/detail_tip_panclinic.asp?MID=112&CID=29
http://www.doctor.or.th/node/5912
http://ods.od.nih.gov/factsheets/vitamine/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อุปมา อุปไมย สำนวนการเปรียบเทียบ ของไทย

ความสามารถทั่วไปด้านเหตุผล การหาความสัมพันธ์จาก ภาพ สัญลักษณ์

แนวข้อสอบ เงื่อนไขสัญลักษณ์