โรคพิษสุนัขบ้า
โรคพิษสุนัขบ้า เกิดจากเชื้อไวรัส Rabies Virus เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกาย จะเดินทางไปตามเส้่นประสาท เข้าสู่สมอง ทำให้สมองอักเสบ และเสียชีวิตในที่สุด เมื่อเกิดอาการของโรคแล้ว จะไม่สามารถรักษาให้หายได้
โรคนี้ไม่ได้เกิดกับสุนัขเท่านั้น
จากชื่อของโรค ทำให้เข้าใจผิดว่าเกิดกับสุนัขเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเกิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมทั้งคนด้วย จึงถือเป็น "โรคสัตว์สู่คน" ที่สำคัญโรคหนึ่ง
อาการที่พบในสัตว์
มีทั้งแบบดุร้ายและแบบซึม โดยแบ่งระยะของโรคเป็น 3 ระยะ ได้แก่
ส่วนใหญ่จะมีอาการสมองและไขสันหลังอักเสบ เริ่มแรกจะมีไข้ต่ำ ๆ เจ็บคอ เพลีย เบื่ออาหาร คันจากบริเวณที่ถูกกัด และลามไปส่วนอื่น ๆ ต่อมากระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม หนาวสั่น กลืนลำบาก น้ำลายไหล หายใจไม่ออก เป็นอัมพาต หมดสติ และตายในที่สุด การติดต่อ สัตว์ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ก่อนแสดงอาการ โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำลายของสัตว์ ดังนั้นการติดเชื้อจะเกิดจากน้ำลายเข้าสู่บาดแผล และเยื่อเมือกบุตา จมูก ปาก *ถ้าน้ำลายถูกผิวหนังปกติ ไม่รอยข่วนหรือบาดแผล ไม่มีโอกาสติดโรค* ส่วนการติดเชื้อโดยการกิน หรือหายใจ มีโอกาสน้อยมาก ยกเว้นมีไวรัสในอากาศจำนวนมาก เช่น ในถ้ำค้างคาว
เมื่อถูกสุนัขกัดควรทำอย่างไร
แผ่นพับเรื่อง โรคพิษสุนัขบ้า โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ หนองโพ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ โทร. 0-3235-1715, 0-3238-9182
หมายเหตุ
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-20.00 น. ยกเว้นวันศุกร์ หยุดพักให้บริการเวลา 12.00-17.00 น.
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม เขตจังหวัดราชบุรี ใกล้โรงนมหนองโพ นมหนองโพ นมโคแท้แท้
โรคนี้ไม่ได้เกิดกับสุนัขเท่านั้น
จากชื่อของโรค ทำให้เข้าใจผิดว่าเกิดกับสุนัขเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเกิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด รวมทั้งคนด้วย จึงถือเป็น "โรคสัตว์สู่คน" ที่สำคัญโรคหนึ่ง
อาการที่พบในสัตว์
มีทั้งแบบดุร้ายและแบบซึม โดยแบ่งระยะของโรคเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะเริ่มแรก
มีอารมณ์และนิสัยเปลี่ยนไป มีไข้เล็กน้อย ม่านตาขยาย ตอบสนองต่แสงลดลง กินอาหารน้อยลง
- ระยะตื่นเต้น
เริ่มมีอาการทางประสาท กระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง หงุดหงิด กัดทุกสิ่งไม่เลือกหน้า ตัวแข็ง บางครั้งชักกระตุก สุนัขที่แสดงอาการ "แบบดุร้าย" จะแสดงอาการระยะนี้ยาวนานและเด่นชัด
- ระยะอัมพาต
สัตว์จะคางห้อย ลิ้นห้อย น้ำลายไหล อาจแสดงอาการขย้อนคล้ายมีอะไรอยู่ในคอ เนื่องจากลิ้นเป็นอัมพาต ไม่สามารถกินน้ำได้ ทำให้มีการเรียกชื่อโรคนี้อีกอย่างว่า "โรคกลัวน้ำ" ต่อมาขาอ่อนเปลี้ย อัมพาตขึ้นทั้งตัว และตายในที่สุด (ภายใน 10 วันหลังแสดงอาการ) สัตว์ที่แสดงอาการระยะนี้เด่นชัด จะเรียกอาการ "แบบเซื่องซึม"
ส่วนใหญ่จะมีอาการสมองและไขสันหลังอักเสบ เริ่มแรกจะมีไข้ต่ำ ๆ เจ็บคอ เพลีย เบื่ออาหาร คันจากบริเวณที่ถูกกัด และลามไปส่วนอื่น ๆ ต่อมากระสับกระส่าย กลัวแสง กลัวลม หนาวสั่น กลืนลำบาก น้ำลายไหล หายใจไม่ออก เป็นอัมพาต หมดสติ และตายในที่สุด การติดต่อ สัตว์ป่วยสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ก่อนแสดงอาการ โดยเชื้อโรคจะอยู่ในน้ำลายของสัตว์ ดังนั้นการติดเชื้อจะเกิดจากน้ำลายเข้าสู่บาดแผล และเยื่อเมือกบุตา จมูก ปาก *ถ้าน้ำลายถูกผิวหนังปกติ ไม่รอยข่วนหรือบาดแผล ไม่มีโอกาสติดโรค* ส่วนการติดเชื้อโดยการกิน หรือหายใจ มีโอกาสน้อยมาก ยกเว้นมีไวรัสในอากาศจำนวนมาก เช่น ในถ้ำค้างคาว
เมื่อถูกสุนัขกัดควรทำอย่างไร
- ล้างแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ เข่น โพรวิโดนไอโอดีน
- ไปพบแพทย์ เพื่อรับการป้องกันรักษาที่ถูกต้อง
- จำลักษณะอาการของสุนัข สารเหตุที่ถูกกัด ถามประวัติการฉีดวัคซีน กักไว้สังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน โดยให้อาหารและน้ำสัตว์กินด้วย
- สุนัขได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี เคยฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งหลังสุด ไม่เกิน 1 ปี
- สุนัขได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี อยู่ในบริเวณรั้วรอบขอบชิด มีโอกาสสัมผัสสัตว์อื่นน้อย
- สุนัขมีอาการปกติดี กินน้ำ กินอาหารได้
- ถูกกัดโดยมีเหตุโน้มนำ เช่น ไปรังแกหรือทำให้สุนัขโกรธ ตกใจ หรือ สุนัขตัวนั้นชอบกัดคนเป็นประจำอยู่แล้ว
แผ่นพับเรื่อง โรคพิษสุนัขบ้า โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ หนองโพ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาตร์ โทร. 0-3235-1715, 0-3238-9182
หมายเหตุ
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-20.00 น. ยกเว้นวันศุกร์ หยุดพักให้บริการเวลา 12.00-17.00 น.
โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพ ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม เขตจังหวัดราชบุรี ใกล้โรงนมหนองโพ นมหนองโพ นมโคแท้แท้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น