เพิ่มประสิทธิภาพให้สมอง
สมองมีน้ำหนักน้อยกว่า 2% ของน้ำหนักตัวแต่ละคน แต่ใช้ออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไปทุกขณะถึงมากกว่าร้อยละ 20 และใช้น้ำตาลมากกว่าครึ่งหนึ่งของน้ำตาลที่ไหลเวียนในร่างกายสำหรับการทำงานของสมอง
สมองเป็นเสมือนผู้บัญชาการใหญ่ของร่างกาย ควบคุมทุกอย่าง ทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น การเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ การคิด ความรู้สึก ความจำ แม้จนกระทั่งการเต้นของหัวใจ สมองจึงมีความสำคัญต่อเราอย่างมาก
Dr. Kyl Smith ให้ข้อมูลว่า การได้รับสารอาหารที่ไม่พอเพียงในแต่ละวัน มีผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะ วิตามิน B6 แมกนีเซียม หรือ สังกะสี อาหารมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสมอง
วิตามิน B6 เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสื่อนำประสาท (Neurotransmitters) 3 ชนิด ได้แก่ serotonin dopamine และ acetylcholine
เพราะฉะนั้นถ้าในแต่ละวันเราได้รับวิตามิน B6 ไม่พอเพียง จะทำให้แสดงอาการหลายอย่าง เช่น เซื่องซึม ไม่แจ่มใส อารมณ์แปรปรวน ความจำไม่ดี ขาดสมรรถภาพในการปรับตัวเข้ากับความเครียด เป็นต้น
ถ้าวันไหนรู้สึกไม่ค่อยแจ่มใส หมดเรี่ยวแรง อารมณ์ไม่ดี ไม่มีความสุข อาจเป็นไปได้ว่า เรากำลังขาดสารอาหารบางอย่างที่ไปบำรุงสมอง
สมองเป็นส่วนของร่างกายที่ต้องการสารอาหารมากที่สุด (nutrient dependent) อาหารที่ไม่มีประโยชน์ทางคุณค่าทางอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปจึงไม่มีประโยชน์ต่อสมอง เมื่อสมองไม่ได้รับสารอาหารที่ต้องการ จึงทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น เหนื่อยหน่าย ไม่มีความสุข อารมณ์แปรปรวน ตลอดจนนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น Parkinson’s disease
อาหารสำเร็จรูป (processed food) อาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมาก มีผลต่อสุขภาพ การได้รับน้ำตาลมากเกินไปทำให้สมองป้องกันตัวเอง เกิดลักษณะ insulin resistant
ลักษณะการกินที่ดีเพื่อบำรุงสมองให้สมบูรณ์ คือ ต้องพยายามหาความสมดุลระหว่าง น้ำตาล และอาหารที่ให้โปรตีน ตลอดจนผักและผลไม้ เพื่อช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
สมองประกอบด้วยไขมัน 60% การกินอาหารที่มีไขมันประเภทที่ประโยชน์ จึงเป็นสิ่งดีสำหรับสมอง ไขมันที่ดี ได้แก่ โอเมก้า 6 (omega 6 fatty acids) และโอเมก้า 3 (omega 3 fatty acids)
โอเมก้า 6 มีมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน ข้าวโพด และงา
โอเมก้า 3 มีมากใน เมล็ดฟักทอง walnuts และปลาน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน และ ทูน่า
อ้างอิง
http://www.voiceamerica.com/episode/63338/you-were-given-a-brain-for-a-reasonare-you-using-it-to-your-full-potential
http://wiki.answers.com/Q/What_percentage_of_the_oxygen_that_we_breathe_is_used_by_the_brain
http://kidshealth.org/teen/your_body/body_basics/brain_nervous_system.html
http://www.vitaminsdiary.com/nutrients/dopamine.html
http://www.askdrsears.com/topics/family-nutrition/dha/dha-brain-food
สมองเป็นเสมือนผู้บัญชาการใหญ่ของร่างกาย ควบคุมทุกอย่าง ทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น การเคลื่อนไหวของอวัยวะต่าง ๆ การคิด ความรู้สึก ความจำ แม้จนกระทั่งการเต้นของหัวใจ สมองจึงมีความสำคัญต่อเราอย่างมาก
Dr. Kyl Smith ให้ข้อมูลว่า การได้รับสารอาหารที่ไม่พอเพียงในแต่ละวัน มีผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะ วิตามิน B6 แมกนีเซียม หรือ สังกะสี อาหารมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสมอง
วิตามิน B6 เป็นส่วนสำคัญในการสร้างสื่อนำประสาท (Neurotransmitters) 3 ชนิด ได้แก่ serotonin dopamine และ acetylcholine
- serotonin มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อารมณ์ความเซื่องซึม หดหู่ หงอยเหงา (depression)
- dopamine ดูแลเรื่อง การเคลื่อนไหว อารมณ์ motivation และ ความสุขความพอใจ ถ้าขาดจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย และการเป็นโรค Parkinson’s disease ความจำเสื่อม ขาดประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา และขาดสมาธิ
- acetylcholine ช่วยเรื่องสมาธิ ความจำ และการเรียนรู้
เพราะฉะนั้นถ้าในแต่ละวันเราได้รับวิตามิน B6 ไม่พอเพียง จะทำให้แสดงอาการหลายอย่าง เช่น เซื่องซึม ไม่แจ่มใส อารมณ์แปรปรวน ความจำไม่ดี ขาดสมรรถภาพในการปรับตัวเข้ากับความเครียด เป็นต้น
ถ้าวันไหนรู้สึกไม่ค่อยแจ่มใส หมดเรี่ยวแรง อารมณ์ไม่ดี ไม่มีความสุข อาจเป็นไปได้ว่า เรากำลังขาดสารอาหารบางอย่างที่ไปบำรุงสมอง
สมองเป็นส่วนของร่างกายที่ต้องการสารอาหารมากที่สุด (nutrient dependent) อาหารที่ไม่มีประโยชน์ทางคุณค่าทางอาหาร เมื่อรับประทานเข้าไปจึงไม่มีประโยชน์ต่อสมอง เมื่อสมองไม่ได้รับสารอาหารที่ต้องการ จึงทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น เหนื่อยหน่าย ไม่มีความสุข อารมณ์แปรปรวน ตลอดจนนำไปสู่โรคต่าง ๆ เช่น Parkinson’s disease
อาหารสำเร็จรูป (processed food) อาหารที่มีแป้งและน้ำตาลมาก มีผลต่อสุขภาพ การได้รับน้ำตาลมากเกินไปทำให้สมองป้องกันตัวเอง เกิดลักษณะ insulin resistant
ลักษณะการกินที่ดีเพื่อบำรุงสมองให้สมบูรณ์ คือ ต้องพยายามหาความสมดุลระหว่าง น้ำตาล และอาหารที่ให้โปรตีน ตลอดจนผักและผลไม้ เพื่อช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
สมองประกอบด้วยไขมัน 60% การกินอาหารที่มีไขมันประเภทที่ประโยชน์ จึงเป็นสิ่งดีสำหรับสมอง ไขมันที่ดี ได้แก่ โอเมก้า 6 (omega 6 fatty acids) และโอเมก้า 3 (omega 3 fatty acids)
โอเมก้า 6 มีมากในน้ำมันพืช เช่น น้ำมันจากดอกทานตะวัน ข้าวโพด และงา
โอเมก้า 3 มีมากใน เมล็ดฟักทอง walnuts และปลาน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน และ ทูน่า
อ้างอิง
http://www.voiceamerica.com/episode/63338/you-were-given-a-brain-for-a-reasonare-you-using-it-to-your-full-potential
http://wiki.answers.com/Q/What_percentage_of_the_oxygen_that_we_breathe_is_used_by_the_brain
http://kidshealth.org/teen/your_body/body_basics/brain_nervous_system.html
http://www.vitaminsdiary.com/nutrients/dopamine.html
http://www.askdrsears.com/topics/family-nutrition/dha/dha-brain-food
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น