การแปลงคะแนนดิบ เป็นคะแนนที (T-score) ด้วย Excel 2010
ทำไมจึงต้องแปลงเป็นคะแนนที
ข้อมูลคะแนนดิบที่ได้จากการทดสอบ เป็นคะแนนที่ไม่ค่อยมีความหมายมากนัก เช่น ผู้เรียนสอบได้คะแนนวิชาภาษาไทย 35 คะแนน เราไม่ทราบว่า ผู้เรียนคนอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน ที่เข้าสอบวิชาภาษาไทย ได้คะแนนเท่าไร คะแนนเฉลี่ยของการสอบเป็นอย่างไร ดังนั้น คะแนน 35 คะแนน ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้เรียนคนนี้ เรียนเก่ง หรืออ่อน และโดยเฉพาะ ถ้าเราจะเปรียบเทียบคะแนนระหว่างวิชาภาษาไทย กับวิชาอื่นของผู้เรียนคนนี้ เพื่ออยากรู้ว่า เรียนถนัดวิชาอะไรบ้าง เราก็ไม่สามารถที่จะนำคะแนน 35 ไปเปรียบเทียบกับคะแนนดิบของวิชาอื่น ๆ ได้ เนื่องจาก เราไม่ทราบว่าวิชาเหล่านั้น ผู้เข้าสอบทำข้อสอบได้เป็นอย่างไร ค่าเฉลี่ยของวิชานั้น ๆ เป็นเท่าไร การกระจายของคะแนนเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอน จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เหมือนกับเป็นคนละหน่วยกัน จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องแปลงคะแนนดิบ ให้เป็นคะแนนที (T-score) เพื่อทำให้คะแนนมีความหมายมากขึ้น และอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
วิดีโอสาธิต การแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนที
ทำไมต้องเป็นคะแนนที (T-score) ไม่ใช่คะแนนซี หรือ Z-score
ความจริง คะแนนซี (Z-score) ก็เป็นคะแนนที่มาตรฐานเหมือนกัน เพียงแต่มีค่าเฉลี่ย หรือ Mean เป็น 0 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ Standard Deviation คือ 1 ทำให้คะแนนที่น้อยกว่า Mean มีค่าติดลบ ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจลำบาก จึงแปลงเป็นคะแนนที (T-score) ซึ่งไม่มีค่าติดลบ นอกจากนี้ ยังมีข้อแตกต่างอย่างอื่นอีกซึ่งจะไม่กล่าวถึงในที่นี้
การแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนที (T-score) ด้วย Excel 2010
Excel มีฟังก์ชันที่สามารถนำมาใช้ในการแปลงคะแนนดิบ ให้เป็นคะแนน Z-score จากนั้น จึงแปลงคะแนน Z-score ให้เป็น คะแนนที หรือ T-score อีกครั้งหนึ่ง
วิธีการ
ข้อมูลคะแนนดิบที่ได้จากการทดสอบ เป็นคะแนนที่ไม่ค่อยมีความหมายมากนัก เช่น ผู้เรียนสอบได้คะแนนวิชาภาษาไทย 35 คะแนน เราไม่ทราบว่า ผู้เรียนคนอื่น ๆ ในระดับเดียวกัน ที่เข้าสอบวิชาภาษาไทย ได้คะแนนเท่าไร คะแนนเฉลี่ยของการสอบเป็นอย่างไร ดังนั้น คะแนน 35 คะแนน ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้เรียนคนนี้ เรียนเก่ง หรืออ่อน และโดยเฉพาะ ถ้าเราจะเปรียบเทียบคะแนนระหว่างวิชาภาษาไทย กับวิชาอื่นของผู้เรียนคนนี้ เพื่ออยากรู้ว่า เรียนถนัดวิชาอะไรบ้าง เราก็ไม่สามารถที่จะนำคะแนน 35 ไปเปรียบเทียบกับคะแนนดิบของวิชาอื่น ๆ ได้ เนื่องจาก เราไม่ทราบว่าวิชาเหล่านั้น ผู้เข้าสอบทำข้อสอบได้เป็นอย่างไร ค่าเฉลี่ยของวิชานั้น ๆ เป็นเท่าไร การกระจายของคะแนนเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอน จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ เหมือนกับเป็นคนละหน่วยกัน จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้ ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องแปลงคะแนนดิบ ให้เป็นคะแนนที (T-score) เพื่อทำให้คะแนนมีความหมายมากขึ้น และอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
วิดีโอสาธิต การแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนที
ทำไมต้องเป็นคะแนนที (T-score) ไม่ใช่คะแนนซี หรือ Z-score
ความจริง คะแนนซี (Z-score) ก็เป็นคะแนนที่มาตรฐานเหมือนกัน เพียงแต่มีค่าเฉลี่ย หรือ Mean เป็น 0 และมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน หรือ Standard Deviation คือ 1 ทำให้คะแนนที่น้อยกว่า Mean มีค่าติดลบ ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจลำบาก จึงแปลงเป็นคะแนนที (T-score) ซึ่งไม่มีค่าติดลบ นอกจากนี้ ยังมีข้อแตกต่างอย่างอื่นอีกซึ่งจะไม่กล่าวถึงในที่นี้
การแปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนที (T-score) ด้วย Excel 2010
Excel มีฟังก์ชันที่สามารถนำมาใช้ในการแปลงคะแนนดิบ ให้เป็นคะแนน Z-score จากนั้น จึงแปลงคะแนน Z-score ให้เป็น คะแนนที หรือ T-score อีกครั้งหนึ่ง
วิธีการ
- เปิดโปรแกรม Excel 2010
- พิมพ์หัวคอลัมน์ ดังภาพ
- พิมพ์คะแนนข้างล่างนี้ (เป็นคะแนนชุดเดียวกับที่ใช้โปรแกรม PSPP แปลงคะแนนดิบเป็นคะแนนที T-score)83 79 77 74 71 70 67 66 65 65 65 65 64 63 63 63 63 63 62 60 60 60 60 59 59 59 58 57 57 56 56 54 54 54 53 53 53 52 51 50 50 50 50 49 48 48 48 48 47 47 47 45 45 45 44 44 43 43 43 40 40 40 40 39 39 38 38 38
- พิมพ์ลงในคอลัมน์ คะแนนดิบ
- ในการคำนวณ หาค่าคะแนน Z-score ต้องใช้ค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
- คลิก เซลล์ F3 และพิมพ์สูตรหาค่าเฉลี่ย โดยใช้สูตร AVERAGE()
- คลิก เซลล์ G3 และพิมพ์สูตรหาค่าเฉลี่ย โดยใช้สูตร STDEV.S()
- หาคะแนนซี (Z-score) ของคะแนนดิบตัวแรก คือ 83 โดยใช้สูตร NORMALIZE()
กำหนดค่า x = เซลล์ B3
กำหนดค่า Mean = เซลล์ F3 พร้อมทั้งกดแป้น F4 เพื่อกำหนดการอ้างอิงแบบ Absolute
กำหนดค่า Mean = เซลล์ F3 พร้อมทั้งกดแป้น F4 เพื่อกำหนดการอ้างอิงแบบ Absolute - Copy สูตรในเซลล์ C3 จนถึงคะแนนดิบตัวสุดท้ายที่เซลล์ B70 โดยการลาก หรือ ดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม Auto Fill (ปุ่มล่างด้านขวาของกรอบที่ล้อมรอบเซลล์ C3) ก็ได้
- กำหนดทศนิยมให้เป็น 2 ตำแหน่ง โดยการเลือนจุดทศนิยมบนริบบิ้น หรือ จะใช้การจัดรูปแบบเซลล์ ก็ได้
- คลิกที่เซลล์ D3 และแปลงคะแนนซี (z-score) เป็น คะแนนที (T-score) คือ
T-score = 50 + (Z-scor x 10) โดยเขียนเป็นสูตร Excel ที่เซลล์ D3 ดังนี้
= 50 + (C3 * 10) - คัดลอกสูตรในเซลล์ D3 ไปจนถึง D70 โดยดับเบิ้ลคลิกที่ปุ่ม Auto Fill
- จัดทศนิยมให้เป็น 2 ตำแหน่ง
- จะเห็นว่า ค่าที่ได้จากการแปลงคะแนนดิบ เป็น คะแนนที (T-score) โดยใช้โปรแกรม Excel ได้ผลเช่นเดียวกับ ค่าที่ได้จากการแปลงคะแนนดิบ เป็น คะแนนที (T-score) โดยใช้โปรแกรม PSPP หรือ SPSS เช่นเดียวกัน
อ้างอิง
https://www.aea267.k12.ia.us/assessment/different-types-of-data-and-scores/z-scores-and-t-scores/
ขอบคุณค่ะ สุดยอดดด
ตอบลบขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับความรรู้ที่มอบให้ ขออานิสงฆ์แห่งความดีที่ท่านทำนี้จงส่งผลให้ท่านมีแต่ความสุขความเจริญและมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ
ตอบลบแก้ไขนามสกุลนะคะ ชื่อวิฬารี สว่างพลกรังค่ะ
ตอบลบขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ที่เผยแพร่ให้ขออนิสงค์ให้คุณมีปัญญาที่เฉียบแหลมและมีสุขภาพกายใจที่แข็งแรงและมั่นคง
ตอบลบThank you
ตอบลบขอบคุณค่ะ ได้ประโยชน์และนำไปใช้ได้จริง ๆ ค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากคะ เข้าใจและใช้ประโยชน์ได้มากคะ
ตอบลบthank you
ตอบลบ