อันตรายจากโทรศัพท์มือถือ
พูดกันมากเรื่องอันตรายจากคลื่นวิทยุ (radiofrequency - RF)จากโทรศัพท์มือถือ มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและฝ่ายที่ต่อต้านโดยเฉพาะจากทางผู้ผลิตมือถือ ซึ่งถึงปัจจุบันก็ยังหาข้อยุติไม่ได้
มาถึงวันนี้ (ข่าวจาก www.forbes.com เมื่อ DEC 16, 2017 @ 10:37 AM) สำนักงานสาธารณสุขของรัฐคาลิฟอร์เนียร์ (the California Department of Public Health - CDPH) ได้ออกประกาศคำแนะนำอย่างเป็นทางการ ให้ลดการใช้งานโทรศัพท์มือถือ
คำแนะนำส่วนหนึ่ง มีดังนี้
ให้โทรศัพท์อยู่ห่างจากตัวทุกครั้งที่ทำได้ เช่นเอาไว้ในกระเป๋าถือ กระเป๋าเอกสาร เป็นต้น
แทนที่จะเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง
งดการใช้โทรศัพท์ในสถานที่ที่มีสัญญานโทรศัพท์ต่ำ (สังเกตจากสัญญานมีแค่ 1-2 ขีด ) หรือขณะนั่งอยู่ในรถยนต์ หรือรถประจำทางที่กำลังวิ่งด้วยความเร็ว ทั้งนี้เพราะ ถ้าสัญญานต่ำหรืออยู่ในขณะที่เคลื่อนที่เร็ว โทรศัพท์จะปล่อยพลังงานความถี่มากกว่าปกติ
ลดการใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อดูหนัง-ฟังเพลง แบบ streaming หรือ ลดการดาวน์โหลดหรืออับโหลดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่
ตอนกลางคืน ควรวางโทรศัพท์ไว้ให้ห่างจากเตียง หรือห่างจากศีรษะ
ถอดชุดหูฟังออกจากศีรษะ เมื่อไม่ได้ใช้งาน
หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่โฆษณาว่า สามารถป้องกันรังสีแม่เหล็กได้ เพราะอาจจะเป็นการเพิ่มการได้รับรังสีมากขึ้น
มาถึงวันนี้ (ข่าวจาก www.forbes.com เมื่อ DEC 16, 2017 @ 10:37 AM) สำนักงานสาธารณสุขของรัฐคาลิฟอร์เนียร์ (the California Department of Public Health - CDPH) ได้ออกประกาศคำแนะนำอย่างเป็นทางการ ให้ลดการใช้งานโทรศัพท์มือถือ
คำแนะนำส่วนหนึ่ง มีดังนี้
ก่อนหน้านี้ ประเทศฝรั่งเศสก็ห้ามนักเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาใช้โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน (ข่าวจาก the Guardian)
ในที่ประชุมนักวิทยาศาสตร์ 14 ประเทศ ของ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยเกี่ยวกับมะเร็ง ของ องค์การอนามัยโลก หรือ the World Health Organization’s International Agency for Research on Cancer (WHO/IARC) สรุปว่า การใช้โทรศัพท์มือถืออาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งสมอง
นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยที่ระบุว่า คลื่นรังสี RF อาจจะมีผลต่อการเกิด มะเร็งในสมอง (brain cancer) และ ก้อนเนื้อในประสาทการได้ยิน (acoustic nerve) และต่อมน้ำลาย (salivary gland) ได้
โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น ซึ่งสมองกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาการ อาจจะได้รับผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลายาวนานติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่มีข้อยุติ แต่ถ้าระวังไว้ก่อนก็จะดี ถือคติที่ว่า "กันไว้ ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน"
อ้างอิง
https://www.forbes.com/sites/alicegwalton/2017/12/16/california-warns-about-cell-phone-exposure-and-health-risks/#1a4748c134a3
http://healthland.time.com/2011/05/31/whoiarc-classifies-cell-phone-radiation-as-possibly-carcinogenic-now-what/
https://www.scientificamerican.com/article/major-cell-phone-radiation-study-reignites-cancer-questions/
https://www.theguardian.com/world/2017/dec/11/france-to-ban-mobile-phones-in-schools-from-september
โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น ซึ่งสมองกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาการ อาจจะได้รับผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลายาวนานติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะยังไม่มีข้อยุติ แต่ถ้าระวังไว้ก่อนก็จะดี ถือคติที่ว่า "กันไว้ ดีกว่าแก้ ถ้าแย่แล้วจะแก้ไม่ทัน"
อ้างอิง
https://www.forbes.com/sites/alicegwalton/2017/12/16/california-warns-about-cell-phone-exposure-and-health-risks/#1a4748c134a3
http://healthland.time.com/2011/05/31/whoiarc-classifies-cell-phone-radiation-as-possibly-carcinogenic-now-what/
https://www.scientificamerican.com/article/major-cell-phone-radiation-study-reignites-cancer-questions/
https://www.theguardian.com/world/2017/dec/11/france-to-ban-mobile-phones-in-schools-from-september
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น